รีวิวหนัง "I Wanna Dance with Somebody" เรนจ์เสียงทรงพลัง แต่ยังไม่ถึงระดับมหัศจรรย์

ถึงคิวของอีกหนึ่ง ดีว่าในตำนานที่ใคร ๆ ก็ยกให้เธอผู้เป็น “แม่” ยอดเยี่ยมนักร้องเสียงทรงพลังแห่งยุค กับชีวิตที่พุ่งขึ้นสูงสุด แล้วก็ดิ่งลงต่ำสุด ในช่วงแห่งความเลื่องชื่อ นี่เป็น “I Wanna Dance with Somebody ชีวิตมหัศจรรย์…วิทนีย์ ฮุสตัน”

ตีแผ่ชีวประวัติของนักร้องหญิง “วิทนีย์ ฮุสตัน” เจ้าของเพลงดังอมตะ ติดหูมากมาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชีวิต ของตำนานคนเพลง ที่ถูกนำมาขึ้นจอ ท่ามกลางยุค ที่หนังแนว ๆ ทยอยสร้างมาเรื่อยว่าแต่ว่าเรื่องนี้ จะยังสร้างเสน่ห์แล้วก็มนต์ขลัง ได้หรือเปล่า?

วิทนีย์ ฮุสตัน นักร้อง

เพียงผู้เดียวบนโลกใบนี้ ที่ได้รับฉายาว่า The Voice เธอคนนั้นคือ วิทนีย์ ฮุสตัน

ผู้ที่หลายท่านสามารถเรียก ได้อย่างเต็มปากว่าเธอคือ ราชินีสุดยิ่งใหญ่แห่งวงการเพลง จากการผลิตสถิติสำหรับการกวาดรางวัล บนเวทีประกาศรางวัลของวงการนี้เยอะมาก และนี่เป็นเส้นทางแห่งห้วงชีวิต อันแสนมีเวลาจำกัด ของเธอผู้นี้ ทั้งสุข ทั้งทุกข์ ทั้งหลากหลายอารมณ์ กับเส้นทางในแวดวงเพลง จากนักร้องเพลงประสานเสียง ในโบสถ์เล็ก ๆ มาเป็นซูเปอร์สตาร์ดาว จรัสระดับโลก ที่มีเสียงอันทรงพลัง ที่โลกจำไม่ลืม

คงต้องร้อยเรียงกัน แบบไม่อ้อมค้อมว่า I Wanna Dance with Somebody เป็นหนังชีวประวัตินักร้องชื่อดังเรื่องหนึ่ง ที่น่าเสียดายไปสักหน่อย ตรงที่หนังเกือบจะไม่มีอะไร ให้น่าจำสักเท่าไหร่เลย ในหลายแง่รวมทั้งหลายองค์ประกอบที่ใส่เข้ามา “คาซี เลมมอนส์” ผู้กำกับหญิง ที่เคยสร้างภาพยนตร์เข้าชิงออสการ์มาแล้ว จาก Harriet มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง ที่เหมือนงานจะออกจะใหญ่ และกดดันเกินไปสักหน่อย ทำให้การลำเลียงชีวิต ของดีวาหญิงผู้นี้ ออกมาเป็นหนังแล้วนั้น ยังมีรสสัมผัส ที่ไม่จัดจ้านเท่าไหร่

วิทนีย์ ฮุสตัน ทรงพลัง

ถึงแม้ว่าจะได้มือเขียนบทตัวท็อป อย่าง “แอนโทนี แม็คคาร์เทน” มาปลุกปั้นเรื่องราว ของหนังเรื่องนี้ ให้แล้วก็ตาม แต่ว่าไม่สามารถที่จะนำเอาไป เปรียบเทียบกับงานเขียนชิ้นก่อนของเขา อย่าง Bohemian Rhapsody ได้เลยสักนิด ระหว่างที่นั่งดู ก็ได้คิดสงสัยว่าเพราะเหตุใด

เสน่ห์ที่มันน่ากลมกล่อม แบบที่เคยทำให้นั้น มันหลบไปอยู่ที่ไหน ทั้งที่ทางชีวิตของวิทนีย์ ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย มีประเด็นต่าง ๆ ให้ได้เผยและก็วาดภาพออกมา ได้อย่างทรงพลังไม่ยาก

จนมานั่งวิเคราะห์ลึก ๆ ก็พบว่า I Wanna Dance with Somebody ค่อนข้างที่จะเลือกเสนอชีวิต ของวิทนีย์ในลักษณะ เพียงระดับผิวเผินพอควรอยู่ในหลาย ๆ จุด นั่นก็เลยเป็นจุด ทำให้บทหนัง ยังไม่สามารถที่จะประคับประคองเอาไว้ได้

เหมือนกำลังหนังดูหนังชีวประวัติ ที่สร้างง่ายๆ เป็นหนังฉายบนทีวีเรื่องหนึ่ง ที่หลายส่วนประกอบยังไม่มิติ และยังไม่มีจุดสัมผัส ที่สื่อสารได้ถึงผู้ชม ได้อย่างเต็ม ๆ แม้ว่าจะขนโชว์เพลงฮิต มาใส่เอาไว้มากมาย กลับยังไม่ค่อยลื่นไหล และถูกใจเท่าไรนัก

วิทนีย์เพลง

I Wanna Dance with Somebody คล้ายกับเป็นหนังที่ย่อ ชีวิตวิทนีย์แบบง่าย ๆ

เก็บตกโมเมนท์หลักๆ ในไลฟ์ไทม์ของเธอ หยิบเอาไลฟ์โชว์เด่น ๆ ที่เคยตรึงใจตรึงตานำมาผลิตซ้ำทับลงไปในนั้น ไล่เรียงเล่าเป็นช็อตต่อช็อต โดยที่ไม่ค่อยมีกิมมิก แล้วก็ลูกเล่นอะไรสักเท่าไหร่ งานสร้างก็จัดได้ว่า ดีตามมาตรฐาน ในส่วนนี้ค่อนข้างจะเพลย์เซฟ ไปสักหน่อย โดยเฉพาะอย่างเรื่องโชว์ และก็เพลงประกอบ ที่หนังเลือกที่จะเอาเสียงเพลง ต้นฉบับมาแปะ ทับเอาไว้ตลอดทั้งเรื่อง

ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่าการใช้ลูกเล่นนี้ไม่ดี เพียงแต่ว่า พองานสร้างทำได้ ไม่ถึงจุดนั้น ภาพรวมที่ออกมากลายเป็นอย่างกับตอกย้ำ การแสดงที่สวมบทบาท แบบปลอมๆ มากยิ่งขึ้น นักแสดงนำกลายเป็นขยับปากร้อง ลิปซิงตามเสียงต้นฉบับ แม้อินเนอร์จะได้ แต่ว่าฟีลลิ่งต่าง ๆ ยังมิได้ และไม่ค่อยเชื่อมต่อ กับคนดูได้ดีสักเท่าไหร่ นั่นก็เลยเป็นจุด ที่ไฮไลต์เด่นของหนังเรื่องนี้ ควรจะทำงานตรงนี้ได้ดีที่สุด แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จได้เท่าที่ควร

และก็มันก็ส่งต่อภาพรวม ขององค์ประกอบการแสดงอีกด้วย จะต้องชื่นชมเลยว่า “เนโอมิ แอ็คกี” แบกรับบทหนักทั้งเรื่องนี้ เอาไว้ได้ดีมาก ๆ เธอคือตัวชูโรงเพียงลำพังที่ยืนหนึ่ง

แต่เพราะส่วนผสมที่ยังขาด ๆ เกิน ๆ ของหนังนั้น กลับไม่ช่วยส่งเสริม พลังการแสดงของเธอ ได้สักเท่าไหร่นัก ในตอนครึ่งแรกเป็นช่วง ที่ถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างน่าหลงใหล แต่ว่าในตอนช่วงหลัง ที่เป็นห้วงของดราม่าจัด ๆ กลับไม่สามารถที่จะแตะไปถึงจุด ที่สร้างความทรงพลังได้

เหมือนกับ นักแสดงสมทบคนอื่นทั้ง “สแตนลี ทุชชี”, “ทามารา ทูนี”, “คลาร์ก ปีเตอร์ส” หรือ “แอชตัน แซนเดอร์ส” เหมือนมาเป็นตัวละคร สมทบให้ครบ ๆ แค่นั้น หนังลืมที่จะให้ความสำคัญ และใส่ใจในรายละเอียด ของพวกเขาไม่สักนิด

หยิบเอามาใส่เนื่องจากควรมีแค่นั้น โดยเฉพาะบทของสแตนลี ที่เอาจริง ๆ ถ้าได้รับการใส่ใจมากกว่านี้ บทบาทของเขาน่าจะทรงพลังได้ยิ่งกว่านี้ เผลอๆความเป็นมืออาชีพของเขา ก็ดันให้ไปถึงระดับรางวัลด้วยซ้ำ

โดยสรุปแล้วนั้น I Wanna Dance with Somebody บางทีอาจยังไม่ได้ เป็นหนังที่สมบูรณ์แบบ และยอดเยี่ยม แต่มันก็ไม่ได้ เป็นหนังที่แย่ เพียงแค่หลาย ๆ องค์ประกอบของหนังเรื่องนี้นั้น ยังค่อนข้างขาดเสน่ห์ ที่ควรมีไปสักหน่อย

การเล่าเรื่องที่ยังจืดชืดไปนิด แม้ว่าจะมีเวลาแอร์ไทม์ถึง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ น่าจะพอเพียงแล้ว กลับยังทำออกมา ได้แบบยังไม่มหัศจรรย์ สักเท่าไหร่ การแตะต้อง เรื่องราวชีวิตของดีวาแบบผิวเผิน เป็นจุดที่ขาด การเชื่อมต่อกับผู้ชมไป แม้นักแสดงจะทำดี เยอะแค่ไหน แต่เนื้อเรื่องไม่ไปทางเดียวกันด้วย ก็ยังไม่น่ามหัศจรรย์อยู่ดี